Author: admin

📌 อ่านชีวะอย่างไร ให้เข้าใจ เเละจำได้ 🎯 น้องๆสายวิทย์ทุกๆคน คงหนีไม่พ้น วิชานี้  "วิชาชีวะ"วิชาที่หินสำหรับหลายๆ คน วิชาที่เข้าใจอย่างเดียวอาจไม่พอ เเต่ต้องจำให้ได้ด้วย จากการที่ได้สังเกตน้องๆสายวิทย์คณิตหลายคน โดยเฉพาะน้องที่ชอบคำนวณไม่ชอบการท่องจำ มักจะไม่ชอบวิชาชีวะเท่าไรนัก หรือ...น้องๆผู้ชายมักไม่ชอบวิชาชีวะมากกว่าน้องๆผู้หญิง เป็นต้น เเต่...นี่ก็เป็นเพียงผลสำรวจจากน้องๆส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ จริงๆเเล้ววิชานี้ก็ไม่ยากเกิน สำหรับน้องๆที่พยายามอย่างเเน่นอน พี่เเอด ก็มีทริคเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้น้องๆ อ่านชีวะเเล้วเข้าใจ อ่านชีวะเเล้วจำได้ในระยะยาว มาฝากกัน อ่านชีวะอย่างไร ให้เข้าใจเเละจำได้ 📝 1. จด Short Note ของตัวเอง การจดShort Note ของตัวเอง จะทำให้เราได้อ่าน เเละทำความเข้าใจเนื้อหาชีวะ ในภาษาของตัวเอง ช่วยให้เราอ่านได้เร็วขึ้น เข้าใจได้ง่ายขึ้นในการอ่านครั้งต่อๆไป เเละสามารถช่วยให้เราจำได้นานขึ้นเช่นกัน📝 2. จำจากภาพ ข้อนี้ ขอบอกเลยว่า ใช้ได้ผลมากๆตัวพี่เเอดเอง ชอบจำเนื้อหาจากภาพ ชอบไปยืมหนังสือText Book ภาพสี จากห้องสมุดมานั่งอ่าน การจะจำเนื้อหาชีวะได้ ต้องดูภาพเเละทำความเข้าใจจากภาพ ยกตัวอย่างเช่น ชีวะเรื่องเเเรก ของม.4 บทเซลล์เเละสิ่งมีชีวิต มาถึงก็ต้องจำโครงสร้างเซลล์ให้ได้ การดูรูปสีจากText Book บอกเลยว่าเป็นวิธีที่ช่วยทำให้เราจำได้ในระยะยาว พี่แอดชอบดู Text Book ภาพสีของ Campbell (มีตัวอย่างหนังสือให้ดู ใต้คอมเม้นนะ) หนังสือ Campbell หนังสือชีวะภาพสี 📝 3. ทำข้อสอบเก่าๆ การฝึกทำข้อสอบชีวะเก่าๆ เป็นการเช็คตัวเราเองว่า สิ่งที่เราอ่านไปนั้น เราเข้าใจมากน้อยเเค่ไหน ข้อสอบชีวะมักไม่ได้ออกหนีกันมาก ยิ่งเราทำข้อสอบชีวะเก่าๆมาก ก็จะยิ่งทำให้เราจับทางเเนวข้อสอบได้ ทำให้เราไม่ตื่นกลัวเวลาเจอข้อสอบในห้องเรียน หรือข้อสอบจริง หากน้องๆคนไหนอยากได้ข้อสอบเก่าก็โหลดตามlinkด้านล่างได้เลย https://drive.google.com/drive/folders/1GldTz752ZODYBAIUlIR1A19riB7C44ki📝 5. หาตัวช่วยอื่นๆ หากถ้าเราทำทุกวิถีทางเเล้ว เเละรู้สึกว่ายังไม่มั่นใจ รู้สึกว่ายังทำข้อสอบชีวะไม่ค่อยได้ คะเเนนยังไม่ค่อยดี ก็ลองหาตัวช่วย ด้วยการติวดูเเนะนำว่าควรเป็นการติวตัวต่อตัวนะ เพราะจะได้ ให้พี่ติวเตอร์อธิบายจุดที่น้องๆไม่เข้าใจได้ตรงจุดเลย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือความพยายาม ความตั้งใจของตัวเรา หากน้องๆ ตั้งใจ เเละมั่นใจว่า "ฉันต้องทำได้" ไม่ว่าจะวิชาชีวะหรือวิชาไหนๆ น้องก็สามารถทำได้อย่างเเน่นอน LINE ID: vamtutor สอนพิเศษถึงที่ / สอนพิเศษออนไลน์ตัวต่อตัว#ติวชีวะตัวต่อตัว #ติวชีวะออนไลน์เรียนพิเศษออนไลน์ ...

น้องๆหลายคน คงเจอกับปัญหา.... - ทำข้อสอบ Error ไม่ได้ เพราะ อ่อนเเกรมม่า - ทำข้อสอบภาษาอังกฤษเเล้วพาร์ทที่เป็นเเกรมม่าได้คะเเนนน้อย - เขียน Writing ไม่ได้ เพราะเขียนเเล้วเขียนเเกรมม่าผิดๆ อ่อนเเกรมม่าทำอย่างไรดี 📌 วิธีที่จะทำให้เรา เข้าใจเเกรมม่ามากขึ้น น้องๆอาจต้องเริ่มต้น ด้วย 4 วิธีนี้ 1. เข้าใจ"ประเภทของคำ"หลักสำคัญของวิชาภาษาอังกฤษคือ น้องๆต้องเข้าใจว่า คำที่น้องกำลังวิเคราะห์ในโจทย์ คำที่น้องกำลังจะเขียน นั้นเป็นคำประเภทอะไร เช่นเป็น Nouns คำนาม ,Pronouns คำสรรพนาม, Verbs คำกิริยา, Adjectives คำคุณสมบัติ, Adverbs คำวิเศษณ์, Prepositions คำบุพบท ,Conjunctions คำเชื่อม หรือ Interjections คำอุทานเพราะหากเราไม่ทราบว่าคำๆนี้ คืออะไร เราจะไม่มีทางวางคำนั้นๆ ในประโยคได้ถูกจุดได้เลย เเละนี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราเขียนประโยคไม่ได้ วิเคราะห์เลือกคำตอบผิดๆ 2. เข้าใจ"การเรียงลำดับคำ" ต่อเนื่องจากข้อ 1 หากเรารู้เเล้ว ว่าคำนี้คือคำอะไร เช่นรู้เเล้วว่า คำนี้คือ Adjective เราอาจจะเกิดคำถามว่า เเล้วเรียง Adjective ที่มีหลายๆ คำในประโยคอย่างไรดีหล่ะ อันไหนต้องอยู่หน้า อันไหนต้องอยู่หลังการจะเข้าใจว่าเรียงลำดับคำในภาษาอังกฤษอย่างไร เรียกว่า Word Order การเรียงลำดับเรียงได้ดังนี้ ลำดับ 1: Pointing word (คำบ่งชี้) >> This That a an the ลำดับ 2: Quantity (คำบอกปริมาณ) >> First, two, some , manyลำดับ 3: Size (คำบอกขนาด) >> big large tallลำดับ 4: Quality (คำบอกคุณภาพ) >> good, bad, ลำดับ 5: Color (คำบ่งสี) >> Pink , Black ลำดับ 6: Nationality (คำบ่งสัญชาติ) >> Thai , German, Frenchลำดับ 7: Material (คำบ่งชนิดของวัสดุ) >>Leather, silkลำดับ 8: Noun (คำนาม) >> belt , car ตัวอย่างเราจะบอกว่า นี่คือเข็มขัดหนังใหญ่ 2 ชิ้น สวย สีดำจากประเทศฝรั่งเศส จะเรียงเป็นประโยคภาษาอังกฤษได้ว่า These two big beautiful black French leather belts. เเบบนี้นั้นเอง 3. หมั่นอ่านบทความภาษาอังกฤษ การหมั่นอ่านบทความภาษาอังกฤษ นอกจากทำให้เราเคยชินเข้าใจโครงสร้างประโยคมากขึ้นเเล้ว ยังเหมือนเป็นการเช็คความรู้ ความเข้าใจเเกรมม่า ว่าเราเข้าใจถูกไหม เช่น ประโยคในบทความนี้ วางรูปเเบบ การเขียนลักษณะนี้ เราต้องตอบให้ได้ว่า เข้าหลักเเกรมม่าใด นี่เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการทดสอบ ความเข้าใจเเกรมม่าของเรา ผ่านบทความที่เราอ่าน เเละถามตอบกับตัวเอง 4. หาตัวช่วย หากเรารู้สึกว่า พยายามด้วยตัวเองเต็มที่เเล้ว ยังไงก็ไม่เข้าใจ ยังจับจุดไม่ได้ เริ่มไม่ถูก พี่เเอดเเนะนำ ลองหาตัวช่วยโดยการเรียนตัวต่อตัวดู ไม่เเนะนำให้เรียนเป็นห้องใหญ่หรือกลุ่มใหญ่นะ เพราะจะทำให้เราไม่กล้าถาม หากเพื่อนๆ...

📌5 เทคนิคง่ายๆที่จะช่วยให้เราเก่งวิชาเคมีขึ้น ไม่อ่อน เคมีอีกต่อไป อ่อนวิชาเคมี ทำอย่างไรดี 1. จำ เเละ เข้าใจ ตารางธาตุให้ได้ เเน่นอนว่า การจะเรียนวิชาเคมีให้เก่ง สิ่งหนึ่งที่หลีกหนีไม่ได้เลย ก็คือ ตารางธาตุ (เรียกได้ว่า เป็นสิ่งจำเป็น ที่น้องๆ มอปลาย ต้องพกติดตัว เลยทีเดียว ก็ว่าได้) ตารางธาตุ ถือเป็นเรื่องพื้นฐาน เป็นเรี่องที่อยู่บทเเรกเลย ของวิชาเคมี ม.4 ไม่ใช่เเค่จำอย่างเดียว เเต่เราต้องเข้าใจสมบัติของธาตุในเเต่ละหมู่ด้วย เช่น ธาตุตัวนี้ มีคุณสมบัติอย่างไร, ขนาดของธาตุตัวนี้ ใหญ่หรือเล็กกว่าธาตุอีกตัวหนึ่งเป็นต้น ยิ่งเรื่องสมบัติการละลายน้ำ หมู่ใดละลายน้ำ หมู่ใดไม่ละลาย ยิ่งต้องรู้ ต้องเข้าใจให้ได้ บอกเลยว่าข้อสอบถามบ่อยมากๆ 2. ทำการทดลอง วิชาเคมีที่โรงเรียน ต้องมีคาบการทดลองเเน่นอน การทดลองวิชาเคมี จะช่วยทำให้เราได้เห็นภาพ ได้เข้าใจปฏิกิริยาเคมีที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่สารได้ทำปฏิกิริยากัน เช่น สารมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นหรือเย็นลง สารมีสีที่เปลี่ยนเเปลงไป หรือสารมีการตกตะกอน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาเคมี ที่เราได้เรียนภาคทฏษฏีไปในบทเรียนมากยิ่งขึ้น เเละจะทำให้เราเข้าใจ จำได้ในระยะยาวอีกด้วย 3. ทำโจทย์เยอะๆ ส่วนตัวของเเอดเอง บอกเลยว่า เก่งเคมีจากการทำโจทย์ ฟันธงให้กับน้องๆได้เลยว่า การฝึกทำโจทย์เคมีเยอะๆ จะช่วยให้เราเก่งเคมีขึ้นได้จริงๆ เท่าที่ตัวพี่ได้ทำมา สุดท้ายเเล้ว โจทย์จะยากเเค่ไหน หากเราเข้าใจพื้นฐาน สุดท้ายเราก็ตีโจทย์เคมีที่ยากๆนั้นได้ เเนะนำว่าลองฝึกโจทย์ทั้งข้อสอบเก่าเเละข้อสอบใหม่ จะได้เห็นเเนวโจทย์เคมีที่หลากหลาย 4. เข้าเรียนในทุกๆครั้ง การขาดเรียนครั้งหนึ่ง อาจทำให้ความเข้าใจเราลดลงได้ ขาดเรียนครั้งหนึ่ง เนื้อหาอาจจบไปเเล้วบทหนึ่งเป็นต้น พี่แอดจะบอกน้องๆเสมอว่า ให้เข้าเรียนทุกๆครั้ง โดยเฉพาะวิชาเคมีที่เราต้องเรียนในห้องเรียนที่โรงเรียน เพราะคุณครูมักนำความรู้ไล่จากพื้นฐาน มีการทดลองเคมีประกอบในบทเรียนเเต่ละบท มีการบ้าน มีงานกลุ่มให้ฝึกทำ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราได้เข้าใจวิชาเคมีอย่างถ่องเเท้มากขึ้นได้มากทีเดียว 5. หาตัวช่วยอื่นๆเพิ่มเติม หากเราได้พยายาม ทุกวิถีทาง ตามที่พี่แอดได้กล่าวมาข้างต้นเเล้ว เเต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่เข้าใจวิชาเคมีอยู่ดี อาจลองหาพี่ติวเตอร์ที่ติววิชาเคมีโดยเฉพาะ ติวเเบบตัวต่อตัวช่วย ค่อยๆให้พี่ติวเตอร์อธิบายในจุดที่เราไม่เข้าใจ พี่เเอดเเนะนำว่าให้เรียนเเบบตัวต่อตัวน่าจะดีกว่ากว่าเรียนเป็นกลุ่มหลายๆคน เพราะการเรียนเเบบตัวต่อตัว น้องๆจะได้กล้าถามติวเตอร์ได้โดยตรง เเล้วติวเตอร์จะได้ดูเเลน้องๆอย่างใกล้ชิด ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนตามพื้นฐานของเราเลย อาจจะเป็นเรียนเคมีตัวต่อตัวให้ติวเตอร์มาสอนที่บ้าน หรือ เรียนเคมีออนไลน์ตัวต่อตัวก็ได้เช่นกัน ทาง VAM TUTOR ก็มีสอนเคมีเช่นกันนะคะเรียนพิเศษที่บ้านเรียนพิเศษออนไลน์ 🔬 เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หากน้องๆทำตามที่พี่เเอดเเนะนำ ตาม 5 ข้อนี้ น้องๆจะต้องเก่งเคมี ไม่อ่อนต่อไปอีกเเน่นอน ! LINE ID: vamtutor #สอนพิเศษเคมีที่บ้าน #สอนพิเศษเคมีออนไลน์ตัวต่อตัว ...

👉 วิชาเลข เป็นอีกหนึ่งวิชาที่ถูกให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเรียนระดับชั้นใด สายการเรียนใด สายวิทย์หรือสายศิลป์ ต่างต้องเรียนวิชาเลขกันทั้งสิ้น 👉 ปัญหา ลูกอ่อนเลข เป็นปัญหาที่ ผู้ปกครองหลายท่าน สอบถามมาว่าจะเเก้อย่างไรดี ครูช่วยหน่อย จึงเป็นที่มาของการเขียนบทความนี้ หลายครั้งที่ลูกเรา เเก้โจทย์ไม่ได้ คิดไม่ออก เรียนไม่ทันเพื่อนในห้องเรียน ปัญหาเหล่านี้ทำให้ลูกเราเสียความมั่นใจ เเละยิ่งไม่อยากเรียน ไม่ชอบวิชานั้นๆ ลองอ่านดูเพิ่มเติมจากบทความ http://www.oecd.org/…/programmeforinternation…/33918006.pdf… 👉 ดังนั้นเเล้วคนเป็นพ่อเป็นเเม่จะช่วยลูก หาทางออกได้อย่างไรดีหล่ะ หลายผู้ปกครองมักให้ลูกทำโจทย์เลขที่ง่ายๆ เพื่อหวังให้เด็กได้เข้าใจ เเละลดความเครียดให้กับเด็ก เลี่ยงที่จะให้ลูกทำโจทย์ที่ยากๆ เพราะไม่อยากให้ลูกเผชิญกับปัญหาที่เเก้โจทย์ไม่ได้ เเล้วเกิดความเครียด การทำลักษณะนี้ บอกได้เลยว่า เป็นการเเก้ปัญหา ที่ไม่ถูกต้องเท่าไรนัก การที่ลูกทำเเต่โจทย์ง่ายๆ ไม่ได้ช่วยให้ลูกได้ ฝึกพัฒนาการคิด กลับยิ่งเพิ่มช่องว่างให้ลูกเคยชินกับข้อง่ายๆ เเละเลี่ยงที่จะเรียนรู้โจทย์หรือเนื้อหาที่ยากขึ้นในอนาคต เเละก็ไม่ได้ช่วยทำให้เก่งเลขขึ้น 👉 วิธีเเก้ปัญหา ลูกอ่อนเลขคุณพ่อคุณเเม่อาจเริ่มจาก- อธิบายพื้นฐานให้ลูกเข้าใจ - ให้ลูกทำโจทย์ง่าย - ให้ลูกทำโจทย์ที่ซับซ้อนขึ้นไป หากลูกทำไม่ได้ อาจช่วยGuideline หรือการตั้งคำถาม เช่น เมื่อโจทย์ถามอย่างงี้ หนูควรทำอย่างไรต่อ โจทย์มีตัวเลขนี้มาให้ เเปลว่าโจทย์ต้องการถามอะไรเรานะ? ช่วยเอาปากกา วงคำที่สำคัญในโจทย์ เป็นการบอกใบ้เป็นต้น เมื่อลูกเริ่มทำได้ คุณพ่อคุณเเม่ก็ สามารถหาโจทย์ลักษณะเดียวกัน โดยไม่ต้องบอกใบ้ หรือไม่ต้องวงกลมคำสำคัญในโจทย์เเต่อย่างใด ปล่อยให้ลูกได้ฝึกคิดเเละเเก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง อาจบอกลูกเพื่อให้กำลังลูกว่า "ข้อนี้ทำเหมือนเดิมนะลูก ลองทำดู" การที่ค่อยๆGuideline ลูก ให้ฝึกความกล้า ที่จะเผชิญกับโจทย์ข้อยาก ฝึกกระบวนการคิด จะทำให้ลูกเก่งเลขมากขึ้น เเละไม่กลัวกับการเเก้ปัญหา 👉 สิ่งที่พ่อเเม่ห้ามทำเด็ดขาดเลย คือ... การยืนอยู่ข้างหลังลูก เเล้วก็คอยบอก ให้ลูกทำนู้น ทำนี่ ลูกห้ามคิดอย่างงี้นะ ลูกทำอย่างงี้ไม่ถูกนะ การทำลักษณะนี้จะยิ่งทำให้ลูก ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง 👉 สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ลูกเก่งเลข นอกเหนือจากวิธีที่อธิบายข้างต้นก็คือ..การหมั่นฝึกฝน การฝึกเเก้โจทย์ปัญหา วันละ 20-30 วันต่อสัปดาห์ สัปดาห์ละ3 วันเป็นอย่างน้อย เเละต้องทำอย่างต่อเนื่อง การทำลักษณะนี้ จะทำให้ลูกเราได้ฝึกการคิด ฝึกความเคยชิน ดีไม่ดี สามารถเปลี่ยนจากเด็กที่อ่อนเลข เป็นเด็กที่เก่งเลขเลยก็เป็นได้ 📌 ลูกอ่อนเลข เป็นเรื่องที่เเก้ได้ หากคุณพ่อคุณเเม่ เลือกวิธีการเเก้ได้ถูกทาง เป็นกำลังใจให้น้องๆ เเละคุณพ่อคุณเเม่ทุกๆท่านค่ะ 📌 LINE ID: vamtutor สอนพิเศษถึงที่/สอนพิเศษออนไลน์ตัวต่อตัวเรียนพิเศษออนไลน์ เรียนพิเศษที่บ้าน อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง 4 วิธี..เรียนเลขอย่างไรให้เก่ง Cr: Education Facet ...